
ตามคำสอนของอัลกุรอาน การกระทำของมนุษย์และเหตุการณ์ต่างๆ ในชีวิตประจำวันถือว่ามีความเชื่อมโยงกับพระประสงค์ขององค์ผู้อภิบาล การสร้างสรรค์และดำเนินชีวิตของมนุษย์ขึ้นอยู่กับการกำหนดจากพระองค์ โดยทุกๆ การกระทำมีผลสะท้อนกลับไปสู่ผู้กระทำทั้งในทางที่ดีและไม่ดี บทความนี้จะพาเราศึกษาถึงแนวทางการเพิ่มพูนปัจจัยยังชีพตามอัลกุรอาน ผ่านแง่มุมต่างๆ เช่น การขออภัยโทษ (อิสติฆฟาร) ความศรัทธา (อีมาน) การยำเกรง (ตักวา) การขอพร (ดุอาอ์) การมอบหมายต่อพระองค์ (ตะวักกัล) การขอบคุณ (ชุกร์) และการแต่งงาน เป็นต้น
อิสติฆฟาร: การขออภัยและการกลับเนื้อกลับตัว
หนึ่งในหัวข้อสำคัญที่อัลกุรอานและบรรดาผู้นำในศาสนาได้เน้นย้ำเสมอคือการอิสติฆฟาร (การขออภัยโทษต่อพระองค์อัลลอฮ์) ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์รอดพ้นจากความผิดบาป นอกจากนี้ยังมีผลในการเพิ่มพูนปัจจัยยังชีพในชีวิตประจำวันของมนุษย์ด้วย
ในอัลกุรอานมีโองการหลายโองการที่กล่าวถึงความสำคัญของการอิสติฆฟาร เช่น ในซูเราะฮ์ฮูด โองการที่ 3 ที่กล่าวว่า:
“และท่านทั้งหลายจงขออภัยต่อองค์อภิบาลของพวกท่านเถิด แล้วจงกลับเนื้อกลับตัวต่อพระองค์ พระองค์จะทรงประทานความสุขอันงดงามแก่พวกท่านตราบจนถึงอายุขัยที่กำหนดไว้”
ชนเผ่าอ๊าด ซึ่งมีร่างกายแข็งแรงและทรัพย์สมบัติมากมาย หลงระเริงกับเนี๊ยะมัต (ความโปรดปราน) จากพระองค์ จนถึงขั้นหันไปกราบไหว้รูปปั้นและตั้งภาคีต่อพระองค์ ด้วยเหตุนี้ พระองค์จึงส่งศาสดาฮูด (อ.) มาเพื่อชี้นำพวกเขา แม้ว่าศาสดาฮูดจะพยายามนำพวกเขากลับสู่ทางที่เที่ยงตรง แต่ส่วนใหญ่ของชนเผ่าอ๊าดกลับต่อต้าน และพระองค์จึงลงโทษด้วยความแห้งแล้งนานถึง 7 ปี ซึ่งศาสดาฮูดได้กล่าวเชิญชวนพวกเขาให้ทำการอิสติฆฟารเพื่อเรียกคืนความสุขและความอุดมสมบูรณ์ในชีวิต
อีกตัวอย่างหนึ่งปรากฏในซูเราะฮ์นุฮ์ โองการที่ 10-12 ที่กล่าวว่า:
“พวกท่านทั้งหลาย จงขออภัยต่อองค์อภิบาลของพวกท่านเถิด เพราะแท้จริงพระองค์เป็นผู้ทรงอภัยโทษอย่างแท้จริง พระองค์จะทรงหลั่งน้ำฝนอย่างมากมายแก่พวกท่าน และพระองค์จะทรงเพิ่มพูนทรัพย์สินและลูกหลานแก่พวกท่าน”
ประโยชน์ของการอิสติฆฟาร
การอิสติฆฟารในอัลกุรอานกล่าวถึงผลพวงที่ชัดเจน เช่น การได้รับความอุดมสมบูรณ์จากฝน การเพิ่มพูนทรัพย์สินและบุตรหลาน อีกทั้งยังนำไปสู่ความสำเร็จทั้งในโลกนี้และโลกหน้า ท่านอิมามริฏอ (อ.) ได้ให้คำแนะนำแก่ผู้ที่มาขอคำปรึกษาในเรื่องความยากจน ขาดแคลนทรัพย์สิน และไม่มีบุตร โดยทุกครั้งท่านได้แนะนำให้พวกเขาทำการอิสติฆฟาร เนื่องจากการอิสติฆฟารนั้นเป็นวิธีที่นำมาซึ่งพระประสงค์ของพระองค์ในการประทานเนี๊ยะมัตเหล่านี้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการอิสติฆฟาร
ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการอิสติฆฟารคือช่วงใกล้รุ่ง โดยเฉพาะในคืนวันศุกร์ อัลกุรอานได้กล่าวถึงผู้ที่ขออภัยโทษในช่วงใกล้รุ่ง เช่นในซูเราะฮ์อาลิอิมรอน โองการที่ 17 และซูเราะฮ์ซาริยาต โองการที่ 18 ท่านอิมามศอดิก (อ.) ได้อรรถาธิบายว่า ผู้ใดกล่าวอิสติฆฟาร 70 ครั้งในช่วงเวลานั้น จะได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในผู้ที่ขออภัยในยามใกล้รุ่ง
วิธีการทำอิสติฆฟาร
ท่านอิมามศอดิก (อ.) ได้แนะนำให้ผู้ที่ต้องการทำอิสติฆฟารทำอย่างต่อเนื่อง เช่น การกล่าว “อัสตัฆฟิรุลลอฮะ วะอะตูบุอิลัยฮ์” 70 ครั้งหลังการนมาซวิเตร และผู้ที่ทำเช่นนี้เป็นเวลา 1 ปี พระองค์อัลลอฮ์จะบันทึกชื่อเขาไว้ในหมู่ชนผู้ที่ขออภัยในยามใกล้รุ่ง และการอภัยเขานั้นจะเป็นวาญิบสำหรับพระองค์
สรุปได้ว่า การอิสติฆฟารเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการเพิ่มพูนปัจจัยยังชีพและนำความอุดมสมบูรณ์มาสู่ชีวิตของผู้ที่ปฏิบัติอย่างจริงจัง ด้วยการขออภัยและกลับใจสู่พระองค์อัลลอฮ์อย่างแท้จริง
อ้างอิง:
- อัลกุรอาน
- ริวายะฮ์จากบรรดาอิมาม